ฝ้า (Blemish-Melasma) เกิดจากอะไร
ฝ้า (Blemish-Melasma) เกิดจากอะไร ควรป้องกัน และใช้ยารักษาฝ้าแบบไหนดี
ใบหน้าของเรานั้นอาจเกิดฝ้าได้ไม่ว่าทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะกลุ่มวัยกลางคนที่อาศัยในประเทศอากาศร้อนจะพบมากเป็นพิเศษ หากเราตากแดดมากเกินไป สภาพผิวหนังบนใบหน้าจะมีปื้นสีคล้ำที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนเม็ดสีผิวหนังที่ถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดที่รุนแรง
ชนิดของฝ้า
- ฝ้าชนิดตื้น เป็นฝ้าที่เกิดใหม่ เกิดจากผิวหนังชั้นกำพร้ามีจำนวนเม็ดสีเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นฝ้าชนิดนี้นานๆ จะมีโอกาสกลายเป็นฝ้าลึกได้
- ฝ้าลึก เกิดจากการเพิ่มของเม็ดสีในผิวหนังชั้นหนังแท้ สีฝ้าจะคล้ำเข้มมากขึ้น และรักษาให้หายยาก
สาเหตุการเกิดฝ้า
- เกิดจากแสงแดดไปเพิ่มจำนวนเม็ดสีผิวหนัง โดยเฉพาะคนที่อาศัยในประเทศเขตร้อน ถูกแดดจัด จะมีโอกาสเป็นฝ้าสูง
- เกิดจากฮอร์โมน จากการตั้งครรภ์ หรือช่วงทานยาคุมกำเนิด ฝ้าชนิดนี้จะหายขาดไปเองเมื่อหมดการกระตุ้นจากฮอร์โมน
- การแพ้เครื่องสำอางบางอย่างที่ทำให้เกิดฝ้าดำ
ยารักษาฝ้าชนิดต่างๆ มี ดังนี้
- ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)- Delanin ® เป็นยารักษาฝ้าที่ใช้บ่อยที่สุด เพราะเมื่อไฮโดรควิโนนย่อยสลายจะไปยับยั้งการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี และยังเป็นสารไฮดรอกซีฟีนอลที่ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่ทำให้การผลิตเม็ดสีน้อยลง *** เป็นยังรักษาฝ้าที่ได้ผลดี และเห็นผลไว ทั้งนี้ต้องใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- เทรทิโนอิน (Tretinoin) – Retin-A ®, Stieva-A® เป็นกรดวิตามินเอ ได้ผลพอสมควร แต่เห็นผลน้อยกว่าไอโดรควิโนน และต้องใช้เวลารักษาประมาณ 6 เดือนถึงจะเห็นผล
- กรดอซีเลอิก (Azelaic acid) – Skinoren ® ชนิดครีมทา ความเข้มข้นร้อยละ20 ออกฤทธิ์ใกล้เคียงไฮโดรควิโนน 4% อาจพบผลข้างเคียงทำให้ผิวระคายเคือง เช่น แสบ ร้อน คันบริเวณที่ทา หรือผิวแพ้แสง
- สเตียรอยด์ อย่างเดียว สามารถทำให้ฝ้าจางได้ แต่ถ้าใช้นานๆ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ผิวบาง หลอดเลือดฝอยขยายตัว เป็นสิว หรือขนใบหน้าดก *** สเตียรอยด์เป็นยารักษาอาการผื่นแพ้บริเวณผิวหนัง ไม่แนะนำให้นำมาใช้เดียวๆในการรักษาฝ้า เพราะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงได้ ทั้งนี้จึงนิยมใช้ผสมร่วมกับยารักษาฝ้าตัวอื่น เพื่อลดอาการข้างเคียงจากยาชนิดนั้นๆได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
- ยารักษาฝ้ารูปแบบใหม่ เช่น กรดโคจิก (Kojic acid), วิตามินซี และสารสกัดชะเอมเทศ เป็นต้น *** เป็นสารสกัดที่ได้มาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ นิยมผสมอยู่ในครีม whitening ทั่วไปตามความเข้มข้นที่ต้องการ แต่หากใช้ในความเข้มข้นที่สูงเกิน ก็อาจจะเกิดการระคายเคืองผิวได้
การป้องกันการเกิดฝ้า ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่กระตุ้นการเกิดฝ้าใหม่ ทั้งยังช่วยชะลอผิวเหี่ยวย่น และลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังด้วย
เครดิตภาพจาก http://www.skin-evolutions.co.uk/our-advanced-skin-treatments/